หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556


ทำไมเราควรจะเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยเทคนิคการสอนแบบ "ถอดรหัสเสียงหรือ phonics"

การเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการเรียนแบบ "ถอดรหัสเสียง" หรือ phonics decoding skills จะช่วยสร้างการการเรียนภาษาอังกฤษแบบเป็นธรรมชาติซึ่งเหมือนกับการเรียนรู้ภาษาแม่ของเราในวัยเด็ก   ที่พ่อแม่จะสอนเราออกเสียงต่างๆ จากที่ท่านพูดให้ฟัง  และให้เราออกเสียงตามโดยเราไม่จำเป็นต้องรู้ความหมายของคำๆ นั้นตั้งแต่แรก

วิธีการสอนพูดภาษาอังกฤษโดยเทคนิคการถอดรหัสเสียง หรือ phonics decoding skills ของ ClickN READ Phonics นั้น  เริ่มต้นจากการฝึกฟังเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเสียงนั้นๆ  จึงฝึกออกเสียงตาม  และทำแบบทดสอบการเชื่อมโยงของเสียง กับ รูปของพยัญชนะตัวนั้นๆ  ว่าใช่หรือไม่  โดยบทเรียนจะไม่ขยับไปที่อื่น หากว่าเราเลือกตัวอักษรที่ไม่สัมพันธ์กับเสียงที่ได้ยิน   ดังนั้นหากเราใช้หลักการ "เดาสุ่ม" เราก็อาจจะต้องเลือกไปเรื่อยๆ อย่างน้อยสักตัวหนึ่งจนกว่าจะพบว่าเสียงที่ได้ยินนั้น  ตรงกับตัวอักษรตัวใดที่ปรากฏให้เห็นบนจอ

การเรียนกับโปรแกรม ClickN READ Phonics นี้  เราอาจจะใช้หลักการ "เดาสุ่ม" ได้ในห้องเรียนแรกที่ครูโชว์แผ่นป้ายให้เราเลือกจับคู่กับเสียงที่ได้ยิน   แต่ถ้าเราขืนใช้เทคนิค "เดาสุ่ม" นี้ไปจนจบเราก็จะกลับไปที่ปัญหาเหมือนเดิมเปี๊ยบในห้องเรียนถัดไปอยู่ดี  เพราะห้องเรียนที่สอง (letter sounds on keyboard) เพราะคราวนี้ครูจะไม่โชว์แผ่นป้ายให้เราเลือกแล้ว  แต่จะเป็นเสียงและให้เราพิมพ์ตัวอักษรที่สัมพันธ์กันกับเสียงบนแป้นคีย์บอร์ดแทน

สำเนียงที่ใช้สอนทั้ง 100 บทเรียน และกว่า 10,000 แบบฝึกหัดที่ครูเลือกใช้ทดสอบพวกเรานี้  เป็นเสียงอ่านที่ถูกต้องตามหลักของ IPA (International Phonetic Alphabet)ของ J Ron Nelson, Ph. D. นักภาษาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษให้พูด อ่านออก เขียนได้จริงสำหรับผู้เรียนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง  สำหรับหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษให้ฟังได้ชัดเจน และพูดได้ถูกต้องของClickN READ Phonics นี้  J Ron Nelson, Ph. D. เป็นผู้วางโครงสร้างหลักสูตร และพัฒนาต่อยอดร่วมกับบริษัทซอฟท์แวร์ด้านการศึกษา

ในขณะที่ซอฟท์แวร์สอนการออกเสียงตามเทคนิคการถอดรหัสเสียงหลายยี่ห้อ   สอนเสียงที่พบในภาษาอังกฤษ 42 เสียง (เกิดจากพยัญชนะ 21 ตัว และสระ 5 ตัว)  แต่ในโปรแกรมClickN READ Phonics นี้จะสอนเสียงเพิ่มอีก 19 เสียงรวมเป็น 61 เสียง อาทิ เสียง -ight, -augh, -aught  เป็นต้น

เราพบว่าสถานศึกษาหลายแห่งมีการว่าจ้างครูต่างชาติเข้ามาสอนภาษาอังกฤษแก่บุตรหลานของเรา  จริงอยู่ที่ครูต่างชาติที่เข้ามาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษนั้นจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีก็ตาม  แต่สำเนียงของครูที่มาจากหลายประเทศนั้น  อาจจะทำให้บุตรหลาน หรือเราสับสนได้ว่าตกลงแล้วคำศัพท์นั้นๆ ควรจะออกเสียงอย่างไร  จึงจะถูกต้อง   จากการที่เราได้ทดลองลงเรียนโปรแกรม ClickN READ Phonics  มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี  เราพบว่าจริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องให้ลูกหลานของเราเรียนพูดออกเสียงภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติ   แต่เราสามารถเลือกใช้โปรแกรมการเรียนด้วยตนเองที่ได้มาตรฐานมาปรับใช้ได้   เพื่อให้รากฐานความเข้าใจเรื่องการออกเสียงของเรานั้นแน่นหนาเสียก่อน   หลังจากนั้นหากเราต้องการทดสอบทักษะการพูดของเรา  หรือเพื่อทดสอบการสื่อสาร (หลังจากท่องคำศัพท์และความหมายของมันเสียงอม) เราก็กลับไปฝึกหัดกับครูเจ้าของภาษาได้เช่นกัน

          เก่งอังกฤษด้วยเสียงแทนตัวอักษรค่ะ

Thumbnail


ReadAblePhonics  


Phonogram Sounds

                                HELLO, Let's go through Phonogram Sounds.
                                                                     Kru Patcharin

Phonogram Sounds


Hello, we are going to continue phonogram sounds. Let's go!



http://www.youtube.com/watch?v=gy8uMc_52T4

Thumbnail

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

       Hello   เรามารู้จัก Phonics กันนะคะ  โฟนิคส์  คืออะไร  มันคือเสียงแทนตัวอักษรนั่นเอง
เช่นเดียวกับภาษาไทยเรา  ก  ไก่  คือ  ตัวอักษร  ก  แต่เสียงของมันคือ  กอ  ก ไก่  อ่านว่า  กอ
กาย  สะกด กอ- อา- ยอ  กาย
         ภาษาอังกฤษ  ก็  เช่นกัน  Aa   ออกเสียงได้  4  เสียงค่ะ  ลองดูนะคะ                 
                      Bat              แบ็ท     a   ออกเสียง  เป็น  แอะ  : เบอะ - แอะ - เทอะ     แบ็ท
                      Gate          เนม       a  ออกเสียงเป็น      เอ     :  เกอะ - เอ - เทอะ -   เกท  ( e  ไม่ออกเสียง)
                      Car             คาร์       a   ออกเสียงเป็น    อา    :  เคอะ - อาร์    คาร์
                       Ball            บอล      a   ออกเสียงเป็น   บอล  :  เบอะ - ออ - เลอะ    บอล

             ปัจจุบันเรายังไม่สอนการประสมคำ  แบบโฟนิคส์  เรามักจะให้เด็กท่องจำคำศัพท์  เช่น  B - a - t Bat   ( บี - เอ - ที  )  เด็กเลยไม่ทราบตัวภาษาอังกฤษแต่ะละตัวออกเสียงอย่างไร  จึงยากที่เด็กจะจดจำการออกเสียงเมื่อเด็กเห็นคำศัพท์ใหม่  


             ถ้าท่านใดสนใจเพิ่มเติมให้สืบค้นได้  และฝึกเรียนได้กับ  มิส  มโนมัท  นะคะ  ท่านเก่งมาก

                                                                     
        
Kru Tool